
ในอนาคตรถยนต์ EV อาจแทนที่รถแบบเดิม
ภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาใหญ่ใกล้ตัวที่นับวันมันยิ่งเกิดเป็นเอฟเฟ็กต์ต่าง ๆ มากมาย ทั้งคลื่นความร้อน น้ำท่วมฉับพลัน และไฟป่าที่รุนแรง นี่ยังไม่นับรวมกับเอฟเฟ็กต์อื่น ๆ ที่คนทั่วทั้งโลกเผชิญอยู่ด้วยนะ ด้วยเหตุผลดังกล่าวเลยทำให้หลาย ๆ หน่วยงานเริ่มมองเห็นถึงความสำคัญ ทั้งยังมีการรณรงค์เรื่องภาวะโลกร้อนกันมากขึ้น
โดยหนึ่งในแนวคิดที่กำลังฮิตติดกระแสมากในวงการรถยนต์คือ EV ที่มองดูแล้วหลายคนคงคิดว่าเป็นเพียงโครงการระยะสั้น อินตามเทรนด์ตามกระเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วในอนาคตเราอาจจะได้เห็นรถยนต์ EV โลดแล่นอยู่บนท้องถนนแบบ 100% เลยก็ได้
เป็นไปได้สูง ที่รถยนต์ EV จะถูกใช้มากขึ้นในอนาคต
แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องแปลกสักเท่าไหร่ สำหรับรถยนต์ EV หรือรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เพราะจริง ๆ แล้วมันเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1900 แล้วล่ะ แต่มันเพิ่งจะได้รับความสนใจแบบจริง ๆ จัง ๆ ก็ในช่วงศตวรรษที่ 21 นี่แหละ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้กระแสของมันปังขึ้น นั่นก็เป็นเพราะมนุษย์กำลังได้รับบทเรียนจากธรรมชาตินั่นเอง

รถยนต์พลังงานไฟฟ้า คืออะไร เอาง่าย ๆ คือชื่อของมันก็บอกอยู่ว่าเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบ 100% ในภาษาอังกฤษจะเรียกกันว่า Electric Vehicle หรือ EV แบบที่เรารู้จัก โดยรถประเภทนี้จะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์พลังงานไฟฟ้าที่ถูกจัดเก็บอยู่ในแบตเตอรี่หรืออุปกรณ์เก็บพลังงานไฟฟ้า ซึ่งมอเตอร์ไฟฟ้าดังกล่าวจะช่วยให้แรงบิดมีอัตราที่เร็ว ขับเคลื่อนได้ทันที ที่สำคัญไม่ต้องใช้น้ำมันที่ต้องปล่อยควันพิษมาในอากาศอีกด้วย
และถึงแม้ว่าในปัจจุบันยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) จะมีสัดส่วนการจำหน่ายประมาณ 10 ล้านคัน (จากทั่วโลก) แต่ในปี 2020 ที่โควิด-19 ระบาดหนัก ทำให้ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกต่างพากันชะลอตัว แต่ในทางกลับกันรถยนต์ EV กลับมียอดขายพุ่งขึ้นมาถึง 41% จากปีก่อน นั่นจึงเป็นคำตอบสำคัญว่ารถ EV จะไม่ใช่เทรนด์อีกต่อไป แต่รถยนต์ไฟฟ้า EV จะเข้ามาแทนที่รถยนต์แบบเดิมได้ในอนาคต และเร็วกว่าที่คิดแน่นอน
Mercedes-Benz ประกาศ ตั้งแต่ปี 2568 รถทั้งหมดจะเป็นไฟฟ้าเท่านั้น

เมื่อความฮิตของรถยนต์ไฟฟ้ายังคงเป็นกระแส และดูท่าว่าจะเป็นกระแสที่ยากจะถูกลบ เรื่องการเปลี่ยนแปลงนี้จึงทำให้ผู้ผลิตรถยนต์หลายแห่ง เริ่มมีการปรับแผนธุรกิจกันใหม่ โดยมุ่งเน้นไปที่การลงทุนรถยนต์ไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบ อย่างยี่ห้อรถสุดหรู Mercedes-Benz ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่อินกับกระแสที่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน
โดยเรื่องนี้ Mercedes-Benz ได้มีการประกาศว่าภายในปี 2565 ที่จะถึงนี้ บริษัทจะเริ่มมีรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ (BEV) ในทุกเซกเมนต์รถยนต์ของบริษัท และตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป รถยนต์รุ่นใหม่ที่ถูกเปิดตัวจะเป็นแค่รถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น! ใครที่เป็นสาวก Mercedes-Benz คงต้องรอดูกันอีกที ว่ารถยนต์ไฟฟ้าตราดาวจะทำออกมาได้ว้าว และคุ้มค่ากับการรอคอยมากขนาดไหน
ข้อดีของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
ชาร์จแบตเตอรี่ได้ที่บ้าน ไม่ต้องเสียเวลาไม่ปั๊มน้ำมัน
- การต่อคิวเติมน้ำมันที่ปั๊มยังคงเป็นปัญหากวนใจใครหลายคน แต่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าคุณสามารถชาร์จทิ้งไว้ที่บ้านขณะนอนหลับหรือขณะพักผ่อน เมื่อตื่นเช้ามารถคันนี้ก็พร้อมใช้งานแล้ว
มีความเงียบและอัตราเร่งที่โดนใจ
- รถประเภทนี้จะอาศัยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพื่อช่วยในการขับเคลื่อน เพราะฉะนั้นมันจึงไม่ก่อให้เกิดการเผาไหม้ ทำให้เสียงการทำงานของรถไฟฟ้าเงียบกว่ารถแบบธรรมดาอยู่หลายเท่า และคุณยังสามารถเร่งอัตราความเร็วได้ตามต้องการ เพราะไม่ขั้นตอนในการทดเกียร์อีกต่อไป

ช่วยประหยัดค่าซ่อมบำรุง
- เนื่องจากรถประเภทนี้ไม่มีเครื่องยนต์และไม่ต้องถ่ายน้ำมันเครื่อง จึงทำให้ดูแลรักษาง่ายขึ้น ที่สำคัญยังชช่วยให้คุณลดค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีราคาสูงอีกด้วย
เพราะเรื่องของเทคโนโลยีเป็นเรื่องที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ดังนั้นในอนาคตเชื่อได้ว่าหากหลาย ๆ ธุรกิจยานยนต์ได้ดึงเอารถยนต์ไฟฟ้ามาเป็นไฮไลท์หลักให้กับแบรนด์ ข้อดีต่าง ๆ คงมีมากกว่าที่เคยได้ยินกันมาอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องของประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันอุบัติเหตุ และประกันอื่น ๆ สำหรับรถไฟฟ้า เดาว่าอาจจะมีจุดขายออกมาให้เราได้เห็นเช่นกัน